พระจันทร์สีเลือด คืออะไร? ดีร้ายมีคำตอบ

หลายคนในช่วงนี้คงได้ยินข่าว
เรื่องคืนวันที่ 31 มกราคม 2561 ว่าจะเกิดปรากฏการณ์
ซูเปอร์มูนสีเลือด(Super Blood Moon)

ผมหมอโอมจะขออธิบายให้เข้าใจพอสังเขปดังนี้
ซูเปอร์มูน(Super Moon)คือพระจันทร์เต็มดวง ที่เกิดขณะที่ดวงจันทร์โคจรมาอยู่ใกล้โลกมาก ทำให้เห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
ส่วนพระจันทร์สีเลือด(Blood moon) คือ ปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่มองเห็นดวงจันทร์ที่อยู่ในเงามืดของโลกเป็นสีแดงเข้ม
ส่วนปรากฏการณ์จันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย ในแต่ละปีอย่างน้อยก็ 2 ครั้งต่อปี ปรากฎการณ์นี้อธิบายแบบง่ายๆคือเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกของเราเรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกันพอดี
สีของดวงจันทร์เมื่อเกิดจันทรุปราคาแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน มีทั้งมืดแทบมองไม่เห็นและสีแตกต่างกัน ครั้งนี้จะเห็นเป็นลักษณะสีแดงเข้มเขาจึงเรียกว่าพระจันทร์สีเลือดนั่นเอง

ในทางโหราศาสตร์ในตำราโบราณต่างๆส่วนใหญ่ไม่ได้เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับคุณโทษของการเกิดจันทรุปราคาและพระจันทร์สีเลือดไว้ชัดเจนมากนัก มีเพียงเนื้อหาแฝงซ่อนไว้เพียงบางส่วนแต่ในทางความเชื่อทางไสยศาสตร์ก็ได้มีกล่าวถึงไว้อยู่บ้าง

ครั้งนี้คืนวันที่ 31 มกราคม 2561 ตรงกับวันพุธ ๑๕ ค่ำเดือน ๓ ถือเป็นวันเป็งปุ๊ด(วันเพ็ญพุธ)
"Super Blue Blood Moon Eclipse"
ในความเชื่อทางไสยเวทย์นั้นวันขึ้น 15 ค่ำมักทำการปลุกเสกเครื่องรางของขลังเพราะเป็นวันที่ได้รับอำนาจจากฟากฟ้าและพลังจากดวงจันทร์แต่ก็ไม่นิยมไปขุดว่านผีหรือจับฑูตผีเพราะเชื่อกันว่าวันนั้นพวกผีวิญญาณมักมีฤทธิ์เพิ่มมากขึ้น
ด้วยความเชื่ออีกประการว่า ปรากฎการณ์คราสนั้นในสมัยโบราณไม่นิยมออกไปดูหรือรับแสงเมื่อเกิดจันทรุปราคาเพราะเชื่อว่าจะ"ติดคราส"หรือได้รับพลังที่ไม่ดี

สมัยโบราณผู้รู้ทางโหราศาสตร์และไสยเวทย์จึงได้สร้างวัตถุมงคลกันพลังร้ายหรือผู้ที่ติดคราส เช่น กะลาตาเดียวแกะเป็นรูปพระราหู หลวงพ่อน้อยวัดศีรษะทอง,นางคราส อาจารย์เทพ สาริกบุตร,อุลกมณี,อัญมณีกิมบ่อเซี่ยง ติดตัวไว้สำหรับกันพลังไม่ดีที่เกิดจากคราส

ในคืนวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561
นับว่าเป็น “จันทรุปราคาเต็มดวง” ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเกิดครั้งสุดท้ายเมื่อ 4 เมษายน 2558 ซึ่งเกิดเพียงช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่ 5 นาที แต่ครั้งนี้เกิดนานประมาณ 1 ชั่วโมง 16 นาทีเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาแบบสรรพคราสมิดดวง กึ่งกลางอุปราคาเกิดประมาณเวลา 20.28 น.
ในตำราโบราณระบุไว้ว่า"คราสของพระจันทร์ที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ใกล้กับเกตุนั้นย่อมมีอิทธิพลรุนแรงกว่าคราสของพระจันทร์ที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ใกล้กับราหู”

ซึ่งครั้งนี้ ผมหมอโอมได้ตรวจดูดาวที่โคจรแล้วก็พบว่าในช่วงเวลาที่เกิดคราส ดาวจันทร์ ราหูและเกตุอยู่ร่วมกันในราศีกรกฎ ถือว่าสัมพันธ์ถึงพระเกตุชัดเจน ส่วนในราศีมังกรมีดาวอาทิตย์ร่วมพุธและศุกร์
ในตำราโบราณท่านว่าคราสในราศีกรกฏ พวกเลี้ยงวัว พวกนักมวย นักต่อสู้ และ พวกพืชพันธุ์ธัญญาหารจะได้รับความวิบัติ หากดาวพุธเข้าร่วมขณะเกิดคราส อาหารจำพวกนม เนย น้ำผึ้ง น้ำตาล น้ำมัน จะขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น ผู้ปกครองประเทศโดยเฉพาะสตรีเพศ พวกนักรบ เด็กผู้ชาย พวกบัณฑิต จะประสบความวิบัติ หากดาวศุกร์เข้าร่วมขณะพืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกทำลายพินาศสิ้น ระวังจะประสบภัยใหญ่ๆหลายประการซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน พวกสตรี พวกข้าราชการฝ่ายหญิงจะวิบัติ คราสหากเกิดเวลา 19.44น.–21.27น. ก็ทำนายไว้อีกว่า ผู้ที่ประกอบอาชีพกสิกรรม,พ่อค้านักธุรกิจ,แม่ทัพนายกอง,ฝ่ายบริหารจะประสบกับความวิบัติ

ผมหมอโอมได้ทำการตรวจดูทั้งเวลาที่เกิดคราส,ราศีที่เกิดคราสและลักษณะสีดวงจันทร์ที่จะเกิดในช่วงจันทรุปราคานั้น ก็คงต้องยอมรับว่าหากอ้างอิงตำรา การเกิดคราสครั้งนี้ไม่ค่อยจะเป็นนิมิตมงคลนัก เมื่อเทียบกับดวงเมืองด้วยแล้ว ในราศีกรกฎมีจันทร์เดิมเป็นเกษตรหมายถึงผู้หญิง การเดินเรือ ภัยจากน้ำพึงระมัดระวัง แล้วแถมช่วงที่เกิดคราส ดาวตัวแทนของดวงเมืองคือดาวอังคารยังสถิตอยู่ภพมรณะ พึงควรระมัดระวัง เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ผู้บริหารระดับสูงควรระมัดระวัง
ด้วยตัวผมเป็นนักพยากรณ์หากตรวจยามกาลเวลาว่าไม่เป็นมงคลหากไม่แจ้งจะถือว่าละเลย
ครั้งนี้ผมหมอโอมก็ได้เพียงแนะนำตามความเชื่อของตนดังนี้

เพื่อความสบายใจในวันดังกล่าวหาโอกาสสวดมนต์นั่งสมาธิ
หากกังกลตามกระแสข่าวก็หลีกเลี่ยงการดูหรือมองการเกิดจันทรุปราคาด้วยตาเปล่า

*** คาถา ***
(ตั้งนะโม ๓ จบ)
พระคาถาสุริยะประภา

โอม เอกะจักขุนาฬิเกลา สุริยะประภา ราหูคาหา สัตตะรัตนะ สัมปันโณ มณีโชติระโสยะภา สุวัณณะรัชตะสมิทธา อะหัง วันทามิ เมสะทา โอม กุเสโต มะมะ กุเสโต โตราโม มะมะ โตราโม คุยหะโม มะมะ คุยหะโม
คุติโม มะมะ คุติโม

พระคาถาจันทรประภา

โอม เอกะจักขุนาฬิเกลา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะรัตนะ สัมปัณโณ มณีโชติระโสยะภา สุวัณณะรัชตะสมิทธา อะหัง วันทามิ เมสะทา โอม ยะถาตัง มะมะ ตังถายะ ตังวะตัง มะมะ ตังวะตัง ตังเสถา มะมะ ถาเสตัง
กาติยะ มะมะ ยะติกา

หากมีเหตุจำเป็นต้องไปธุระนอกบ้านแนะนำให้นำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมที่ศีรษะ หากมีของมงคลพระเครื่องติดตัวเป็นมงคลก็คงดีไม่น้อย ถือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเตือนสติให้ระมัดระวังกายใจ

สุดท้ายนี้ผมหมอโอมยังคงเชื่อว่า หากเราคิดดีทำดีประพฤติตนอยู่ในหลักศีลหลักธรรม บุญและความดีจะเป็นเกราะคุ้มครองทุกคนจากภยันอันตรายทั้งปวงได้

#หมอโอม
#หมอโอมถอดรหัสชีวิต

...................................................................

ดวงชะตาคนเกิดทั้ง 7 วันประจำเดือนพฤศจิกายน 2561

>>> Click

ดวงคนเกิดทั้ง 7 วัน ดวงชะตา โดย หมอโอม

>>> Click

ดาวพฤหัสบดีย้าย 9 กุมภาพันธ์ส่งผลดีร้ายอย่างไร? 12 ราศี >>> Click

เจาะลึกดวง 12 ราศี รายการ Money 360>>> Click